ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะมาตัดสินความสำเร็จของโครงการใดๆ ก็ตาม เนื่องจากโครงการจะ “สำเร็จ” ได้ก็ด้วยเครือข่ายสนับสนุน ขณะเดียวกันโครงการนั้นก็สามารถ “ล้มเหลว” ได้โดยผู้คนกลุ่มเดียวกันนี้เอง ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ “การวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” (stakeholder analysis) ซึ่งเป็นเครื่องมือวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ที่จะช่วยให้เราเข้าใจผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ดีขึ้น ได้รับความเชื่อใจจากพวกเขา หรือแม้แต่พลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ
ทำไมเราถึงต้องวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย?
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละคนมีอัตลักษณ์อันจำเพาะ มีความต้องการ ลำดับความสำคัญ ความสนใจ และแรงจูงใจที่แตกต่างกันไป หากเรารู้จักผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างถ่องแท้ เราก็จะมีข้อมูลเชิงลึกว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะได้การสนับสนุนจากพวกเขา เราจะมองเห็นพลวัตความสัมพันธ์ของพวกเขาชัดเจนขึ้น เห็นว่าพวกเขามีจุดยืนอย่างไร และมีส่วนร่วมมากเพียงใด นอกจากนี้เรายังสามารถนำความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์โครงการ เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความเข้มแข็งตั้งแต่แรกเริ่มโครงการ
เราควรวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตอนไหนบ้าง?
แท้จริงแล้วการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคือเครื่องมือที่ช่วยให้เราเข้าใจผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระดับปัจเจกและมองเห็นภาพองค์รวมของพลวัตความสัมพันธ์ระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายภาคส่วน ยิ่งเราเริ่มต้นวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเร็วก็ยิ่งดี นี่รวมไปถึงแต่ละครั้งที่โครงการของเราเริ่มเข้าสู่ระยะใหม่ ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะช่วยให้เราตัดสินใจวางแผนโครงการได้ดีขึ้น
ขั้นที่ 1) ค้นหาว่าใครคือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นได้ทั้งปัจเจกและกลุ่มคนที่จะส่งผลกระทบหรือได้รับผลกระทบจากโครงการของเรา ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอาจเป็น…
- ผู้มีอำนาจตัดสินใจ (เช่น เจ้าหน้าที่รัฐ)
- ผู้ที่มีอิทธิพล หรือกลุ่มคนที่อยู่ในสถานะที่สามารถส่งผลทางความคิดต่อผู้คน (เช่น สื่อ หรือผู้นำ)
- กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการของเรา (เช่น ชุมชน)
- ผู้ที่สามารถเข้ามาช่วยให้โครงการสำเร็จได้ ไม่ว่าจะได้รับผลประโยชน์จากโครงการหรือไม่ก็ตาม (เช่น ผู้เชี่ยวชาญ)
ในการระบุว่าใครเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เราสามารถใช้ตารางด้านล่างมาระดมสมองวิเคราะห์ภูมิทัศน์นโยบาย ซึ่งตารางดังกล่าวทำขึ้นมาโดย Think Tank Lab ในเยอรมนี
มิติไหนของปัญหาที่ต้องการแก้ไข? | ||
คิดว่าอะไรคือรากปัญหา? | ใครคือผู้รับผิดชอบปัญหานี้ และมีผลประโยชน์อะไรเกี่ยวข้อง? | ใครได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ และพวกเขามีความต้องการอะไร? |
ตอนนี้นโยบายของเราอยู่ในระยะไหนของวัฏจักรนโยบาย? | เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับปัญหานี้และบริบทของมัน? เช่น ข้อเท็จจริง บริบท งานวิจัย ฯลฯ | จุดบอด: อะไรบ้างที่เราไม่รู้? ประเด็นไหนที่ต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม? มิติไหนของปัญหาที่ถูกมองข้ามไป? |
แล้วทำไมเราต้องแก้ปัญหานี้? |
หากเราทดคำถามเหล่านี้ไว้ในใจ เราก็จะสามารถ 1) หันมาหาผู้ร่วมทีมเพื่อค้นหาคำตอบ หรือ 2) สังเกตผู้ที่อาจเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (เช่น เพื่อนร่วมงานในวงการเดียวกัน หรือผู้ที่ทำโครงการคล้ายคลึงกับเรา)
และเพื่อให้เราบริหารจัดการรายชื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ดีขึ้น เราสามารถใช้ตารางวางแผนขั้นต้นต่อไปนี้มาช่วย ตารางดังกล่าวประกอบไปด้วยข้อมูลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น จุดยืน ผลประโยชน์ ความเสี่ยง (risks) สิทธิ (rights) และความรับผิดชอบ (responsibilities)
ตัวอย่างตารางวางแผนขั้นต้น “การวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการวางแผนสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์”
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย | ผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโครงการ | ระดับการสนับสนุนหรือไม่เห็นด้วยกับโครงการ | รายละเอียดและยุทธศาสตร์ในการหาแรงสนับสนุนหรือลดแรงต้าน |
ตัวอย่างสมมติ ตารางวางแผนวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในขั้นต้น
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย | ผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโครงการ | ระดับการสนับสนุนหรือไม่เห็นด้วยกับโครงการ | รายละเอียดและยุทธศาสตร์ในการหาแรงสนับสนุนหรือลดแรงต้าน |
ผู้อาศัยอยู่ปลายน้ำ | ต้องจ่ายค่าประกันน้ำท่วม | สนับสนุน | ไม่เก็บภาษีเพิ่มเพื่อนำมาก่อสร้าง |
เจ้าของที่ดินต้นน้ำ | สูญเสียการใช้ที่ดินเนื่องจากทุ่งหญ้าเปียกแฉะ | ต่อต้านอย่างมาก | จ่ายเงินชดเชยการสูญเสียการใช้ประโยชน์จากที่ดิน |
รัฐบาลท้องถิ่น | ลดความเสี่ยงน้ำท่วม, เปิดการใช้เพื่อสันทนาการ, ผลิตพลังงานน้ำซึ่งสามารถลดมลพิษและราคาพลังงาน | สนับสนุน | พลังงานน้ำสามารถใช้ในการก่อสร้าง, ต้องการการสนับสนุนอย่างมากจากองค์กรรัฐอื่นๆ |
กลุ่มคนดูนก | สูญเสียที่อยู่อาศัยของนกชายฝั่ง | ต่อต้านอย่างมาก | ลดความสูญเสียโดยฟื้นฟูที่อยู่อาศัยที่ใกล้กัน |
กลุ่มคนตกปลา | เรือเข้าถึงแหล่งน้ำได้ง่ายขึ้น | สนับสนุนอย่างมาก | พัฒนาทางขึ้นลงเรือ |
ขั้นที่ 2) วางผู้มีส่วนได้ส่วนเสียลงใน “ตารางผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย”
ตารางผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคือสิ่งที่จะช่วยให้เห็นภาพผู้ที่เกี่ยวข้องได้ชัดขึ้น ตารางนี้ประกอบไปด้วยแกน 2 แกน ได้แก่ 1) ระดับอิทธิพลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรืออำนาจที่ส่งผลต่อการดำเนินโครงการ และ 2) ระดับผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยแต่ละช่องเป็นภาพแทนของทางเลือกที่เหมาะสมในการจัดการความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่แตกต่างกันไป
แกน y: อำนาจ (สูง – ต่ำ)
แกน x: ผลประโยชน์ (ต่ำ-สูง)
ทำให้พอใจ | จัดการอย่างใกล้ชิด |
คอยสังเกต (ความพยายามไม่มาก) | คอยรายงานความคืบหน้า |
ในขั้นตอนนี้ ให้แยกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามระดับอิทธิพล/ผลประโยชน์ และเมื่อแยกเสร็จแล้วเราจะมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด 4 กลุ่ม:
- ผู้ที่มีอิทธิพลสูงและผลประโยชน์ต่ำ: สำหรับคนกลุ่มนี้ เราต้องคอยรายงานความคืบหน้าให้ทราบหรือแสวงหาคำปรึกษาจากพวกเขา โดยเราต้องคงระดับความพอใจของพวกเขาเอาไว้
- ผู้ที่มีทั้งอิทธิพลและผลประโยชน์สูง: คนกลุ่มนี้อยู่วงในของการทำงานของเรา เพราะฉะนั้น การกระทำของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนหรือต่อต้าน จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสำเร็จของโครงการ เราจึงต้องจัดการความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด และคำนึงถึงการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับคนเหล่านี้
- ผู้ที่มีอิทธิพลต่ำและผลประโยชน์สูง: คนเหล่านี้กระตือรือร้นที่จะสนับสนุนโครงการ เราจึงจำเป็นต้องคอยรายงานความคืบหน้าให้พวกเขารับรู้
- ผู้ที่มีทั้งอิทธิพลและผลประโยชน์ต่ำ: คนเหล่านี้อยู่รอบนอกโครงการของเรา จึงไม่ต้องการความสนใจมากนัก เราสามารถสังเกตจากไกลๆ และรายงานความคืบหน้าให้พวกเขารับรู้เมื่อจำเป็น
ขั้นที่ 3) เข้าใจแรงจูงใจและพลวัตความสัมพันธ์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
เมื่อเข้าใจแล้วว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีจุดยืนอยู่ตรงไหน ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะสืบสวนเหตุผลเบื้องหลังแรงจูงใจของพวกเขาในการสนับสนุนหรือต่อต้านโครงการของเรา โดยเราสามารถเริ่มต้นจาก…
- ผลกระทบเชิงบวกหรือลบของโครงการต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือผลประโยชน์หรือความสูญเสียที่โครงการจะส่งผลต่อพวกเขา
- ใครคือผู้มีอิทธิพล หรือใครคือผู้ที่จะอยู่ใต้อิทธิพลของความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อโครงการ
หากได้ข้อมูลเหล่านี้มาแล้ว เราจะสามารถนำมาต่อยอดการคิดวิธีการสนทนากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เข้าใจตรงกันในห้วงขณะที่เกิดความไม่เข้าใจ หรือเพื่อให้พวกเขาสนับสนุนและเชื่อใจเรา
และเราก็สามารถนำตารางผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาใช้ไฮไลท์เครือข่ายผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน หรือไฮไลท์วิธีการที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์ต่อกันได้ด้วย
ที่มา: MindTools