บทความ / นวัตกรรมเชิงนโยบาย
Published: 20.09.2023

อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับมัน อย่างไรก็ตาม ยังมีเบาะแสต่างๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ได้แก่ สัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงและโอกาสที่หลากหลายอันเกิดจากปรากฏการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจ นิเวศวิทยา หรือเทคโนโลยีในปัจจุบัน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับเครื่องมือนวัตกรรมเชิงนโยบายที่เรียกว่า “กรวยแห่งการคาดการณ์” หรือ  “forecasting funnel” ซึ่งจะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงได้

มารู้จัก Forecasting Funnel กันเถอะ

Forecasting funnel เป็นกรอบแนวคิดเชิงกลยุทธ์ที่อาศัยข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีประโยชน์ในการ: 1) หาสัญญาณอ่อนของการเปลี่ยนแปลงรวมถึงรูปแบบของแนวโน้ม และ 2) สร้างภาพสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของสัญญาณต่างๆ คุณสามารถใช้ forecasting funnel เพื่อสร้างสถานการณ์ที่จะเผยให้เห็นความท้าทายและโอกาสที่เป็นไปได้ หรือเพื่อวางกลยุทธ์ในการดำเนินการก้าวต่อไปของคุณ

สถาบัน Future Today แนะนำว่า Forecasting funnel แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ

  • ระบุสัญญาณและแนวโน้มที่ส่งผลกำหนดอนาคต
  • จินตนาการถึงสถานการณ์ในอนาคต
  • ก้าวสู่อนาคตด้วยการวางแผนเชิงกลยุทธ์

1. ระบุสัญญาณและแนวโน้มที่ส่งผลกำหนดอนาคต

ในส่วนนี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่สัญญาณต่างๆ และดึงข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มจากสิ่งที่เราค้นพบจากสัญญาณเหล่านั้น

เพื่อสำรวจสัญญาณ เราสามารถใช้เครื่องมือสร้างแผนภาพ ที่เรียกว่า “ภาพร่างขอบ” “Fringe Sketch” เพื่อวาดสัญญาณอ่อนในสเปคตรัมระดับต่างๆ  แหล่งที่มาของ disruption หรือจุดก่อความเปลี่ยนแปลงจะถูกวางจัดลงในแผนภาพนี้ พร้อมกับลากเส้นเชื่อมต่อระหว่างกัน เพื่อแสดงภาพรวมของสัญญาณแต่ละตัวในระดับมหภาคและจุลภาค และคิดถึงผลกระทบของเส้นใยที่เชื่อมโยงซึ่งกันและกันเหล่านี้

ที่มา: มหาวิทยาลัย Seton Hall

เพื่อหาแนวโน้มของสัญญาณที่พันกัน เราสามารถใช้ โมเดล CIPHER  เป็นกรอบทฤษฎีในการระบุและจัดกลุ่มสัญญาณ:

Contradictions
(สิ่งที่ขัดแย้ง)
เมื่อสิ่งต่าง ๆ ที่โดยปกติขัดแย้งกันกลับอยู่ในเส้นทางเดียวกัน หรือสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน แต่ในที่สุดก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง
Inflections
(การผันแปร)
เมื่อการเปลี่ยนแปลงถูกเร่งให้เกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในบางสิ่ง
Practices
(แนวทางปฏิบัติ)
แนวทางปฏิบัติที่ยึดถือมายาวนานและการท้าทายต่อสิ่งที่ได้รับการกำหนดเป็นบรรทัดฐาน
Hacks
(การแฮค)
เมื่อผู้คน “ปรับแต่ง” บางสิ่งและใช้งานสำหรับสิ่งที่ไม่ใช่จุดประสงค์แรกเริ่มของมัน
Extremes
(ความสุดขอบ)
เมื่อผู้คนผลักดันขอบเขตไปสู่จุดที่เปลี่ยนแปลง
Rarities
(สิ่งหายาก)
เหตุการณ์ “หงส์ดำ” หรือความผิดปกติในระบบ

2. จินตนาการถึงสถานการณ์ในอนาคต

แนวโน้มที่จับได้นั้นเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับสถานการณ์ในอนาคตรูปแบบต่างๆ ในส่วนนี้ เราเริ่มต้นด้วยการเปิดเผยความไม่แน่นอนที่หลากหลาย หรือส่วนผสมของปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ตลอดจนความหมายโดยนัย จากนั้นเราจะทำรายการและจำแนกความไม่แน่นอนจากแนวโน้มในอดีตและปัจจุบันตามลักษณะของความไม่แน่นอน และจัดทำแผนภาพโดยใช้เครื่องมือประเมินความเสี่ยงที่เรียกว่า แกนความไม่แน่นอน”  “(Axes of Uncertainty)”

ที่มา: สถาบัน Future Today

แกนนี้ประกอบด้วยเมทริกซ์ 2 x 2 โดยมีความไม่แน่นอนประเภทต่างๆ วางไว้บนแกนตรงข้าม ภายในแกนนี้ ให้เขียนอธิบายเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นหากความไม่แน่นอนมีปฏิสัมพันธ์กัน:

ที่มา: สถาบัน Future Today

สิ่งที่เราได้จากแกนคือต้นแบบสถานการณ์แบบด่วน (rapid scenario prototype) หลากหลายแบบ หรือภาพร่างคร่าวๆ ของความเป็นไปได้ หากต้องการเปลี่ยนไอเดียที่มีแต่โครงเกี่ยวกับอนาคตให้เป็นวิสัยทัศน์ที่เป็นรูปธรรม ให้ใช้ “แนวทางต้นแบบของสถานการณ์” (scenario archetype approaches) ซึ่งเป็นแนวทางที่จัดเรียงสถานการณ์ที่มีแนวโน้ม ตัวขับเคลื่อนเรื่องเล่า และสมมุติฐานร่วมกัน รวมไว้ในหมวดหมู่กว้างๆ

โดยทั่วไปแล้ว มีต้นแบบสถานการณ์อยู่ 4 ประเภท:

  1. ต่อเนื่อง (Continuation): สภาพที่เป็นอยู่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
  2. ล่มสลาย (Collapse): ระบบที่เราอาศัยอยู่ประสบภาวะอัมพาตหรือล่มสลาย
  3. จัดระเบียบ (Discipline): มาตรการเพื่อป้องกันการล่มสลายถูกนำมาใช้
  4. เปลี่ยนแปลง (Transformation): ระเบียบใหม่ ระบบใหม่ วิถีชีวิตใหม่มาแทนที่ของเดิม

คุณสามารถใช้โครงเรื่องเล่าข้างต้นเป็นตัวจำแนกประเภทในแบบที่คุณเห็นว่าเหมาะสม หรือสร้างต้นแบบสถานการณ์ในรูปแบบของคุณเอง

3. ก้าวสู่อนาคตด้วยการวางแผนเชิงกลยุทธ์

เมื่อเรามีต้นแบบสถานการณ์อยู่ในมือแล้ว เราสามารถนำมาใช้เพื่อกำหนดกลยุทธ์การปรับตัวของเราได้ ในขั้นตอนนี้จำเป็นต้องทำการวิเคราะห์ช่องว่าง (gap analysis) เพื่อตรวจสอบภัยคุกคามและโอกาสที่แต่ละสถานการณ์นำเสนอ เมื่อคุณเลือกวิสัยทัศน์แห่งอนาคตที่คุณต้องการติดตามไปให้ถึงแล้ว ก็ถึงเวลาค้นหาเส้นทางที่จะพาคุณไปที่นั่น ซึ่ง Backcasting หรือการพยากรณ์ย้อนหลัง เป็นเครื่องมือมองการณ์ไกลอีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในเรื่องนี้ ตั้งเป้าหมายที่ต้องการ จากนั้นย้อนกลับมาพิจารณาหาสิ่งที่คุณต้องทำหรือเอาชนะเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในอนาคต

ที่มา: Roxi Nicolussi

และด้วยแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมที่จะช่วยให้คุณก้าวไปข้างหน้า ตอนนี้คุณก็เปลี่ยนสัญญาณอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็งของคุณท่ามกลางความเสี่ยงที่ไม่แน่นอนได้ในที่สุด!

ที่มา: สถาบัน Future Today

งานของเรา
สำรวจการนำนวัตกรรมมาออกแบบนโยบาย
คลังความรู้
เรียนรู้ด้านนโยบายสาธารณะ
ร่วมกับเรา
ออกแบบนโยบายกับเรา
Back to Top